หลายๆ คนเห็นรูปแบบการตลาดในแบบปกติทั่วไป แต่ถ้าอยากเด่นอยากไม่เหมือนใครต้องมาดูบทความการตลาดคอนเทนต์ที่ล้อเลียนตัวเองซะงั้น

การเอาแบรนด์ตัวเองมาล้อ หรือการทำคอนเทนต์เชิงลบกับธุรกิจ คือ การสื่อสารเชิงลบ ใช่ว่าจะนำมาซึ่งผลเสียซะทีเดียว แต่กลับกลายเป็นการดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสนใจ จนอยากซื้อ อยากลอง รวมถึงเกิด Action จนกลายเป็น Viral ด้วยความแปลกแหวกแนวที่ไม่ค่อยมีคนกล้าทำนั่นเอง

ในการทำคอนเทนต์เชิงลบแบบนี้นั้นมีข้อดี คือ ถ้าการสื่อสารตรงกลุ่มจะสามารถทำให้ที่จดจำ เป็นกระแสได้รวดเร็ว เพราะความแปลกเรื่องการแสดงออกด้านเชิงลบต่อสินค้า แต่ก็มีข้อเสียอยู่ ถ้าเราสื่อสารผิดกลุ่ม หรือผิดที่ผิดเวลา อาจทำให้คนเข้าใจผิด และมองตัวแบรนด์ในเชิงลบไปเลยทันที ถ้าจะให้เห็นภาพได้ชัดมากขึ้น ลองมาดูตัวอย่างที่ใช้จริงในธุรกิจ

มาดูเคสตัวอย่างที่ได้ผลลัพธ์ดีสุดๆ และหลุดไม่เหมือนใคร หลายคนคงเคยได้ยิน #น้ำพริกแคบหมูยายน้อย แต่ละแคปชั่น แต่ละคอนเทนต์ เล่นเอาซะใครจะกล้ากิน ไม่ว่าจะเป็น
👉 “กินไม่ได้ แคบหมูแข็งเหมือนหิน”
👉 “น้ำพริกแคบหมูยายน้อยกินแล้วตาย ถ้าคายออกมาไม่ทัน”
👉 “รักชีวิตอย่ากินแคบหมูยายน้อย”

อีกตัวอย่างที่ดังสุดๆ คือ พิมรี่พายไลฟ์ขายของ ด้วยคาแรคเตอร์ปากจัด ดุเด็ด เผ็ดมัน แต่ฮา ไลฟ์สดขายของแต่ละทีมีคนมาดูเป็นแสน หนำซ้ำคลิปขายของมีคนไปตัดและแพร่บนแอปฯ ต่างๆ ทำให้โด่งดัง ยิ่งด่า ยิ่งว่า ขายดีขึ้นไปอีก

ทั้ง 2 ตัวอย่างที่ใช้ออนไลน์คอนเทนต์ได้ Engagement สูงมาก และมีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปดูไปชม รวมถึงคอมเมนต์กันตลอด บางครั้งเกิดเป็นกระแสในโลกออนไลน์เอาไปทำเป็น Meme, Viral หรือภาพต่างๆ เพื่อความบันเทิง

หลายคนอาจมองว่าคอนเทนต์แนวนี้ไม่ช่วยให้ขายของได้ แต่หากสินค้า หรือบริการของเรามีคุณภาพดีจริง คุณสร้างจุดขาย ใส่คาแรกเตอร์ให้น่าจดจำ และความครีเอทีฟในการนำเสนอลงไป ก็จะกลายเป็นคอนเทนต์ที่สร้างกระแสเชิงบวก ผลดีที่ตามมา และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักจริงจากการตลาดที่สุดแปลกแหวกแนว

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.marketthink.co/17422
https://www.smethailandclub.com/marketing-6673-id.html