เทคนิคพิชิตใจนักท่องเที่ยวปี 2022

เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ อุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาคึกคักกันเหมือนเดิม ร่วมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว วันนี้เราเลยเอาเทรนด์การท่องเที่ยวในปี 2022 ของ American Express มาเล่าให้ฟังกันค่ะ

เพราเราเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจว่าทั่วโลกคิดอย่างไร จะได้นำมาปรับใช้ ในการวางแผนสำหรับอนาคตข้างหน้า และรับมือมันได้ทันกันค่ะ ซึ่งเทรนด์ที่เราจะนำมาเล่าให้ฟังนั้น ประกอบด้วย 4 เทรนด์ด้วยกัน

Impact and Purpose Drive Booking Decisions

กว่า 81% ของผู้คนมักเลือกท่องเที่ยวในสถานที่ที่ได้ซึมซับบรรยากาศ เข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น และในการเลือกสถานที่นั้นๆ จำเป็นสร้างประโยชน์ หรือเกิดประโยชน์ต่อชุมชน เป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชนและท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย อาทิเช่น การขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศบนเขา ตามหมู่บ้านชาวดอย ที่ได้ทั้งเรียนรู้วัฒนธรรม และได้สร้างรายได้ ให้แก่ชุมชนนั้นๆด้วยเช่นกัน

มาประเทศไทยแล้วต้องไปในพื่นที่นั้น เพราะมีเสน่ห์ของพื้นที่นั้นๆ และสามารถกระจายรายได้ไปถึงชุมชนนั้นโดยตรง

เรามาดู 6 กิจกรรมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวเลือก

กิน และ ช้อป ในสถานธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหารทั่วไป ร้านขายของชำ ร้านของคนในพื้นที่ เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เช่น ไปสมุยเพราะมี หินตาหินยาย เป็นต้น
เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นต้น
เยี่ยมชมตลาดนัดเกษตรกร ถนนคนเดิน
เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือเข้าร่วมทัวร์วัฒนธรรม สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น
กิจกรรมกลางแจ้ง แอดเวนเจอร์ ต่างๆ เช่น ปีนผา เดินป่า ขับATV เป็นต้น

ข้อแนะนำจากบทเรียนนี้
เมื่อเราทราบแล้วว่าจริงๆแล้วเหล่านักเดินทางมองหาความเป็นLocal หรือ เรียกกันภาษาทั่วไปคือ ความบ้านๆ ธรรมดามากขึ้น ฉะนั้นเราควรพยายามมองหาความพิเศษในความธรรมดาให้เจอก่อนค่ะ ไม่ต้องบอกว่าระดับInternanotial เพราะเทรนด์มันเปลี่ยนไประดับบ้านนี่แหละจุดขาย

The Evolution of Family Travel

เหล่านักเดินทางเริ่มหันมาใส่ใจกับการท่องเที่ยวในรูปแบบของครอบครัวมากยิ่งขึ้น 58% สนใจที่จะมองหาทริป หรือการเดินทางในรูปแบบของครอบครัวใหญ่มากยิ่งขึ้น เช่น การท่องเที่ยวหนึ่งครั้งทุกคนในครอบครัวสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกๆวัย

อาจเป็นไปได้ว่าในช่วงของวิกฤตการณ์โควิด ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างครอบครัวมากยิ่งขึ้น เลยทำให้ได้มองเห็นความสัมพันธ์ของครอบครัวสำคัญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อยากใช้เวลาร่วมกันให้มากขึ้น

ข้อน่าสังเกตของเทรนด์นี้คือ เมื่อไปเป็นครอบครัว คนจำนวนมากต่างก็ต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อใช้เวลาทั้งหมดไปกับครอบครัว ฉะนั้น The private luxury family travel landscape หรือ พื้นที่ส่วนตัว การเดินทางส่วนตัว เกาะส่วนตัว เชฟส่วนตัว หรือบ้านพักอาศัยที่สะดวกสบาย และได้ความเป็นส่วนตัวนั้นยิ่งได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อีกด้วย

ข้อแนะนำจากบทเรียนนี้

ฉะนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่หากเราจะจัดสถานที่สุดพิเศษให้สำหรับครอบครัวให้ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่ หรือจัดเป็นทริป แพ็กเกจ หรือแบ่งเป็นอีกโซนหนึ่งเพื่อรับรองนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวให้มากยิ่งขึ้นโดน นอกจากนักเดินทางที่ได้รับความพึงพอใจอย่างเต็มที่จากบริการแล้วนั้น ในมุมกลับกันฝั่งของผู้ประกอบการเอง ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะเราสามารถขายบริการของเราได้ในมูลค่าที่สูงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Dream Destinations Become a Reality

จากผลสำรวจบอกว่า 60% ยอมที่จะเสียเงินไปกับการท่องเที่ยวสำหรับทริปในฝันมากกว่าการซื้อรถยนต์ 1 คัน นอกจากนั้นกว่า 80%ของผู้ทำแบบสำรวจบอกว่า พวกเขามีแนวโน้มในการที่จะใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวที่มากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ขึ้นอีกด้วย และอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่น่าสนใจจากผลสำรวจ ประเทศไทยเองก็ติดอยู่ใน Dream Destinations ที่ผู้สำรวจอยากไปในทวีปเอเชียในอันดับ 3 ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศสิงคโปร์อีกด้วย

และเมื่อเราทราบดีแล้วว่าประเทศเราเองก็ถือเป็นประเทศที่เป็น Dream Destinations ที่หลายๆคนอยากมาเช่นกัน ฉะนั้นเราก็ควรตั้งรับและเตรียมพร้อมในการรองรับเหล่านักท่องเที่ยวหลักจะเปิดประเทศ และสร้างความทรงจำที่ดีให้สมเป็น Dream Destinations ให้สมกับการรอคอย

What’s Next for Experiential Travel

แล้วอะไรคือกระแสการท่องเที่ยวในยุคถัดไปกัน?
กว่า 70% ของผู้ทำแบบสำรวจบอกว่า เขาสนใจการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ได้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง เหมือนที่เราเล่าไปในเทรนด์ข้อแรก และ 45% มองหาการทางเที่ยวเชิงนันทนาการต่างๆ อาทิเช่น เทศกาลงานบันเทิง Music Festival ต่างๆ ที่รู้สึกว่าต้องมาสักครั้ง มีเฉพาะที่นี้เท่านั้น และในเทรนด์นี้ เราสามารถแบ่งประเภทของกิจกรรมที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบได้ออกเป็น 4 ประเภทหลักๆด้วยกัน